แรงโน้มถ่วงจะทำให้เนบิวลาเกิดการยุบตัวลงไปอีก ความดันของแก่นกลางจะสูงขึ้น อุณหภูมิจะสูงถึง 15 ล้านเคลวิน สูงมากพอที่จะเกิดปฏิกิริยาเทอร์มอนิวเคลียร์ เกิดพลังงานมหาศาล เมื่อเกิดความสมดุลระหว่าง แรงโน้มถ่วงกับแรงดันของแก๊สร้อนภายในเนบิวลา จะทำให้เกิดดาวฤกษ์อย่างสมบูรณ์ พลังงานของดาวฤกษ์ เกิดจากปฏิกิริยาเทอร์มอนิวเคลียร์ เนื่องจากแก่นกลางของดาวฤกษ์มีความดันและอุณหภูมิสูงมาก ทำให้นิวเคลียสของธาตุไฮโดรเจน (โปรตอน) 4 นิวเคลียส หลอมรวมตัวกันเป็นนิวเคลียสของธาตุฮีเลียม 1 นิวเคลียส
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
แบบทดสอบเรื่อง ดาวฤกษ์
1. ธาตุที่เป็นองค์ประกอบมากที่สุดของดาวฤกษ์คือธาตุใด
1.ธาตุไฮโดรเจน 2. ธาตุไนโตรเจน
3. ธาตุออกซิเจน 4.ธาตุคาร์บอน
2. สิ่งที่เหมือนกันของดาวฤกษ์แต่ละดวง คือ
1. พลังงานและส่วนประกอบ 2. แหล่งกำเนิดและส่วนประกอ
1. พลังงานและส่วนประกอบ 2. แหล่งกำเนิดและส่วนประกอ
3. พลังงานและแหล่งกำเนิด 4. สีและแหล่งกำเนิด
3.ดาวฤกษ์แต่ละดวงจะมีความแตกต่างกันในด้านใด
1. มวล อุณหภูมิผิว สี 2. ระยะห่าง ขนาด ความสว่าง
3. องค์ประกอบทางเคมี 4. ถูกหมดทุกข้อ
4.ข้อใดถูกต้องเกี่ยวกับดาวฤกษ์
1.ดาวฤกษ์เกิดจากการยุบรวมตัวกันของเนบิวลา
2.ดาวฤกษ์ทุกดวงจะมีสีขาวเหมือนกันทุกดวง
3.มวลของดาวฤกษ์มีความสัมพันธ์กับสีของดาวฤกษ์
4.ดาวฤกษ์จะให้กำเนิดธาตุเรเดียม ธาตุฮีเลียม
5.สภาวะเอื้อชีวิต ธาตุพื้นฐานที่ทำให้เกิดสิ่งมีชีวิตมีธาตุคาร์บอน ไฮโดรเจน และออกซิเจน เป็นต้น จากธาตุดังกล่าวนี้ธาตุที่สำคัญที่สุดคือ
1.คาร์บอน 2.ไฮโดรเจน 3.ออกซิเจน 4. สำคัญเท่ากัน
6.จุดจบของดาวฤกษ์แต่ละดวงขึ้นอยู่กับข้อใด
1. สี 2. มวล 3. อุณหภูมิ 4.องค์ประกอบทางเคมี
7.ข้อใดถูกต้องที่สุด
1. ดาวฤกษ์ที่มีมวลน้อย แสงสว่างมาก จะมีช่วงชีวิตยาว
2.ดาวฤกษ์ที่มีมวลมาก แสงสว่างมาก จะมีช่วงชีวิตยาว
3.ดาวฤกษ์ที่มีมวลน้อย แสงสว่างน้อย จะมีช่วงชีวิตสั้น
4.ดาวฤกษ์ที่มีมวลมาก แสงสว่างมาก จะมีช่วงชีวิตสั้น
8. การระเบิดอย่ารุนแรงของดาวฤกษ์มวลมากก่อนจะดับสลาย เรียกว่าอะไร
1. เนบิวลาดาวเคราะห์ 2. ซูเปอร์โนวา 3. กลุ่มก้อนแก๊สยักษ์ 4.การระเบิดครั้งใหญ่
9.เมื่อดาวฤกษ์มวลมากเกิดการระเบิด บริเวณใจกลางของดาวจะยุบตัวลงกลายเป็นสิ่งใด
1. ดาวแคระขาว 2. ดาวนิวตรอน 3. หลุมดำ 4.ข้อ 2 และข้อ 3 ถูกต้อง
10. ข้อใดให้ความหมายของคำว่า “หลุมดำ” ถูกต้อง
1. บริเวณที่มืดสนิท 2. บริเวณที่แลงส่องไปไม่ถึง 3. บริเวณที่มีแรงโน้มถ่วง 4. ผิดหมดทุกข้อ
11. ดวงอาทิตย์จะให้แสงสว่างเช่นนี้ไปอีกกี่ล้านปี
1. 1,000 ล้านปี 2. 2,000 ล้านปี 3. 4,000 ล้านปี 4. 5,000ล้านปี
12. การยุบตัวลงของแก๊สนเนบิวลาเนื่องจากแรงโน้มถ่วงจะมีผลต่อข้อใด
1. ความดันและอุณหภูมิของแก๊สสูงขึ้น
2.ความดันและอุณหภูมิของแก๊สต่ำลง
3.มวลและแสงสว่างของแก๊สเพิ่มขึ้น
4. มวลและแสงสว่างของแก๊สลดต่ำลง
13. การเปลี่ยนแปลงของแก๊สที่แกนกลางเนบิวลาจนอูณหภูมิสูงถึงหลายแสนองศาเซลเซียส เรียกการเปลี่ยนแปลงช่วงนี้ว่าอะไร
1. ดาวเคราะห์ 2. ดาวแคระขาว 3. ดาวแคระดำ 4. ดาวฤกษ์ก่อนเกิด
14.ถ้าอูณหภูมิของแก๊สที่แก่นกลางเนบิวลาสูงขึ้นเพิ่มขึ้นเป็น 15 ล้านเคลวิน จะทำห็เกิดสิ่งใด
1.ปฏิกิริยาเคมี
2.ปฏิกิริยาเทอร์โมนิวเคลียส
3.ปฏิกิริยาโพลิเมอร์
4.ปฏิกิริยาเทอร์โมนิวเคลียร์
15.ข้อใดอธิบายการเกิดปฏฺกิริยาเทอร์โมนิวเคลียสได้ถูกต้อง
1.เกิดจากนิวเคลียสไฮโดรเจน 1 อะตอม เป็นนิวเคลียสของฮีเลียม 4 นิวเคลียส
2.เกิดจากนิวเคลียสฮีเลียม 1 นิวเคลียส เป็นนิวเคลียสของไฮโดรเจน 4 อะตอม
3.เกิดจากนิวเคลียสไฮโดรเจน 4 อะตอม เป็นนิวเคลียสของฮีเลียม 1 นิวเคลียส
4.เกิดจากนิวเคลียสฮีเลียม 4 นิวเคลีนส เป็นนิวเคลียสของไฮโดรเจน 1 อะตอม
16. พลังงานจำนวนมากที่ได้จากการปฏิกิริยาเทอร์โมนิวเคลียร์ได้จาการเปลี่ยนแปลงในข้อใด
1.แสง 2.ความร้อน 3.ปฏิกิริยาเคมี 4.มวลส่วนที่หายไป
17. เราสามารถคำนวณหาพลังงานที่ได้จากปฏิกิริยาเทอร์โมนิงเคลียร์ ได้จากสมการในข้อใด
1. E=mgh 2. E= ½ mv2 3. E= mc2 4. ข้อ 1และข้อถูก2
18.ความเร็วของแลงในอวกาศมีค่าเท่ากับขิ้ใด
1. 3 * 10 5 เมตร/วินาที 2. 3 * 105 กิโลเมตร/วินาที 3. 3 * 108 เมตร/วินาที 4. ข้อ 2 และ 3 ถูกต้อง
19. เมื่ออุณหภูมิผิวของดวงอาทิตย์ลดลง จะทำให้สีของดวงอาทิตย์เปลี่ยนจากสีใดเป็นสีใด
1. สีเหลืองเป็นสีขาว 2. สีขาวเป็นสีเหลือง 3. สีเหลืองเป็นสีแดง 4.สีขาวเป็นสีแดง
20. ข้อใดถูกต้องที่สุด
1. เมื่อดวงอาทิตย์มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าปัจจุบันทำให้อุณหภูมิที่ผิวมีค่าสูงขึ้น
2. การเกิดปฏิกิริยาเทอร์โมนิวเคลียร์ครั้งใหม่ มีผลทำให้ดวงอาทิตย์ใหญ่ขึ้นเป็น 100 เท่าของขนาดปัจจุบัน
3. ดาวแคระขาวจะมีขนาดเพียง 1 ใน 100 ของดวงอาทิตย์ขนาดปัจจุบัน
4. ข้อ 2 และ 3 ถูก
21. ดวงอาทิตย์ที่มีสีแดงมีชื่อว่าอะไร
1. ดาวแดง 2. ดาวยักษ์แดง 3.เนบิวลา 4.หลุมดำ
22.ดาวแคระขาวเกิดจากในข้อใด
1. แกนกลางของดาวเคราะห์ยุบตังลง เนื่องจากแรงโน้มถ่วง
2.แกนกลางของดาวฤกษ์ยุบตังลง เนื่องจากแรงเหวี่ยง
3.แกนกลางของดาวยักษ์แดงยุบตังลง เนื่องจากแรงโน้มถ่วง
4.แกนกลางของดาวยักษ์แดงยุบตังลง เนื่องจากแรงเหวี่ยง
23. บริเวณแก๊สที่อยู่รอบนอกของดาวแคระขาว จะกลายไปเป็นเป็นในข้อใดในขณะที่แกนกลางเกิดการยุบตัวของ
1. เนบิวลาดาวเคราะห์ 2. เนบิวลาดาวฤกษ์ 3. กาแล็กซี่ 4.ดาวแคระดำ
24.เมื่อดาวแคระขาวหยุดส่องแสงจะแปรสภาพไปเป็นข้อใด
1. ดาวเคราะห์ 2. ดาวแคระดำ 3.เนบิวลา 4. หลุมดำ
25.ข้อใดให้ความหมายความสว่างของดาวฤกษ์ได้ถูกต้อง
1. เป็นพลังงานแสงจากดาวฤกษ์ดวงนั้นในเวลา 1 วินาที
2. เป็นพลังงานแสงจากดาวฤกษ์ดวงนั้นในเวลา 1 นาที
3.เป็นพลังงานความร้อนจากดาวฤกษ์ดวงนั้นในเวลา 1 วินาที
4. เป็นพลังงานความร้อนจากดาวฤกษ์ดวงนั้นในเวลา 1 นาที
26. ข้อใดถูกต้องที่สุด
1. ความสว่างมีหน่วยเป็นพลังงาน
2. ความสว่างของดาวที่เราเห็นบนท้องฟ้า เรียกว่า ความสว่างปรากฏ
3. ดาวฤกษ์ที่มีความสว่างมากที่สุดจะมีค่าอันดับความสว่างเป็น 6
4.ข้อ 1 และ 2 ถูก
27.ดาวที่มีอันดับความสว่างต่างกัน 1 จะมีความสว่างต่างกันประมาณกี่เท่า
1. 2 2. 2.5 3. 3 4. 5
28.นักดาราศาสตร์แบ่งชนิดของดาวฤกษ์ โดยใช้เกณฑ์ในข้อด
1. สีและมวล 2. สีและอุณหภูมิผิว 3. มวลและความสว่าง 4. มวลและกำลังส่องสว่าง
29. นักดาราศาสตร์แบ่งชนิดของดาวฤกษ์เป็น 7 ชนิด โดยเรียงลำดับตามอักษรในข้อใดจากอุณหภูมิสูงไปต่ำ
1. O,A,B,F,G,K,M 2. A,B,F,G,K,M,O 3. O,B,A,F,G,K,M 4. M,K,G,F,B,A,O
30. การจะวัดระยะห่างจากโลกถึงดาวฤกษ์จะต้องคำนวณจากสิ่งใดของดาวดวงนั้น
1. แพรัลแลกซ์ของดาว 2. ระยะห่างจากดาวฤกษ์ถึงดวงอาทิตย์
3. มุมวิกฤติของดาวฤกษ์ 4. ปริมาณแสงและมวลของดาว
21. ดวงอาทิตย์ที่มีสีแดงมีชื่อว่าอะไร
1. ดาวแดง 2. ดาวยักษ์แดง 3.เนบิวลา 4.หลุมดำ
22.ดาวแคระขาวเกิดจากในข้อใด
1. แกนกลางของดาวเคราะห์ยุบตังลง เนื่องจากแรงโน้มถ่วง
2.แกนกลางของดาวฤกษ์ยุบตังลง เนื่องจากแรงเหวี่ยง
3.แกนกลางของดาวยักษ์แดงยุบตังลง เนื่องจากแรงโน้มถ่วง
4.แกนกลางของดาวยักษ์แดงยุบตังลง เนื่องจากแรงเหวี่ยง
23. บริเวณแก๊สที่อยู่รอบนอกของดาวแคระขาว จะกลายไปเป็นเป็นในข้อใดในขณะที่แกนกลางเกิดการยุบตัวของ
1. เนบิวลาดาวเคราะห์ 2. เนบิวลาดาวฤกษ์ 3. กาแล็กซี่ 4.ดาวแคระดำ
24.เมื่อดาวแคระขาวหยุดส่องแสงจะแปรสภาพไปเป็นข้อใด
1. ดาวเคราะห์ 2. ดาวแคระดำ 3.เนบิวลา 4. หลุมดำ
25.ข้อใดให้ความหมายความสว่างของดาวฤกษ์ได้ถูกต้อง
1. เป็นพลังงานแสงจากดาวฤกษ์ดวงนั้นในเวลา 1 วินาที
2. เป็นพลังงานแสงจากดาวฤกษ์ดวงนั้นในเวลา 1 นาที
3.เป็นพลังงานความร้อนจากดาวฤกษ์ดวงนั้นในเวลา 1 วินาที
4. เป็นพลังงานความร้อนจากดาวฤกษ์ดวงนั้นในเวลา 1 นาที
26. ข้อใดถูกต้องที่สุด
1. ความสว่างมีหน่วยเป็นพลังงาน
2. ความสว่างของดาวที่เราเห็นบนท้องฟ้า เรียกว่า ความสว่างปรากฏ
3. ดาวฤกษ์ที่มีความสว่างมากที่สุดจะมีค่าอันดับความสว่างเป็น 6
4.ข้อ 1 และ 2 ถูก
27.ดาวที่มีอันดับความสว่างต่างกัน 1 จะมีความสว่างต่างกันประมาณกี่เท่า
1. 2 2. 2.5 3. 3 4. 5
28.นักดาราศาสตร์แบ่งชนิดของดาวฤกษ์ โดยใช้เกณฑ์ในข้อด
1. สีและมวล 2. สีและอุณหภูมิผิว 3. มวลและความสว่าง 4. มวลและกำลังส่องสว่าง
29. นักดาราศาสตร์แบ่งชนิดของดาวฤกษ์เป็น 7 ชนิด โดยเรียงลำดับตามอักษรในข้อใดจากอุณหภูมิสูงไปต่ำ
1. O,A,B,F,G,K,M 2. A,B,F,G,K,M,O 3. O,B,A,F,G,K,M 4. M,K,G,F,B,A,O
30. การจะวัดระยะห่างจากโลกถึงดาวฤกษ์จะต้องคำนวณจากสิ่งใดของดาวดวงนั้น
1. แพรัลแลกซ์ของดาว 2. ระยะห่างจากดาวฤกษ์ถึงดวงอาทิตย์
3. มุมวิกฤติของดาวฤกษ์ 4. ปริมาณแสงและมวลของดาว
เฉลย
1. 1 2. 3 3. 4 4. 1 5. 4 6. 2 7. 4 8. 2 9. 4 10. 3
11. 4 12. 1 13. 4 14. 4 15. 3 16. 4 17. 3 18. 4 19. 3 20. 4
21. 2 22. 3 23. 1 24. 2 25. 1 26. 4 27. 2 28. 2 29. 3 30. 1
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ตอบลบ1
ลบ